วันที่ 17 เมษายน 2567 ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นนโยบายสำคัญที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรัดบูรณาการการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน นั้น

       วันนี้ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ได้มอบหมายให้ นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. เป็นผู้แทนร่วมแถลงข่าวกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวปฏิบัติการ “The Purge” ปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรข้ามโลก จับต่างชาติตัวการแก๊ง Hybrid Scam ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 250 ล้านบาท โดยมีนางสาวทัตพิชา ชัยทัต ผู้อำนวยการกองคดี 4 นายวิทยาพร จันทวาส ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการงานคดี 1 กองคดี 4 นางสาวพิณารัตน์ ชินพิทักษ์ ผู้อำนวยการส่วนเก็บรักษาและจัดการทรัพย์สิน 3 กองบริหารจัดการทรัพย์สิน และคณะพนักงานเจ้าหน้าที่กองคดี 4 และกองบริหารจัดการทรัพย์สิน ร่วมรับฟังการแถลงข่าว  ณ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

       ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างสำนักงาน ปปง., บช.สอท., สำนักงานอัยการสูงสุด และไบแนนซ์ (Binance) ในการสืบสวนสอบสวนขยายผลกับกลุ่มผู้กระทำความผิดกรณีผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนในลักษณะไฮบริดสแกม โดยสามารถดำเนินการของผู้กระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ได้รวมมูลค่ากว่า 252.5 ล้านบาท ได้แก่ บัญชีเงินฝากยอดประมาณ 40 ล้านบาท, บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท เงินสดจำนวน 80 ล้านบาท และรถยนต์หรูมูลค่าประมาณ 2.5 ล้านบาท ซึ่งสำนักงาน ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินดังกล่าว ตามกฎหมาย รวมทั้งสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่ายบัญชีอื่น ๆ เพื่อนำเงินมาชดใช้คืนให้กับผู้เสียหายต่อไป