โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. ร่วมแถลงข่าวปฏิบัติการ BLACK HAT ล่าล้างขบวนการหลอกลงทุนคริปโต ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 125 ล้าน

UPDATE 23 Apr 2024

วันที่ 23 เมษายน 2567 ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นนโยบายสำคัญที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรัดบูรณาการการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน นั้น

วันนี้ เวลา 14.00 น. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ได้มอบหมายให้ นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. เป็นผู้แทนร่วมแถลงข่าวกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวปฏิบัติการ BLACK HAT ล่าล้างขบวนการหลอกลงทุนคริปโต ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 125 ล้าน โดยมีนายปิยะ ศรีวิกะ ผู้อำนวยการกองคดี 2 นายวรเศรษฐ์ สุรพนานนท์ชัย ผู้อำนวยการกองข่าวกรองทางการเงิน คณะพนักงานเจ้าหน้าที่กองคดี 2 และกองข่าวกรองทางการเงิน ร่วมรับฟังการแถลงข่าว ณ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, สำนักงาน ปปง., และ บช.สอท. ในการสืบสวนสอบสวนขยายผลกับกลุ่มผู้กระทำความผิดกรณีมิจฉาชีพสร้างแพลตฟอร์มปลอมและหลอกลวงผู้เสียหายให้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Crypto Currency โดยมิจฉาชีพจะสร้างแพลตฟอร์มปลอมเพื่อหลอกผู้สัยหายว่าได้กำไรจากการลงทุน จากนั้นจะหลอกให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่มจนกระทั่งท้ายที่สุดไม่สามารถถอนเงินลงทุนคืนได้ สร้างความเสียหายรวมกันมูลค่ากว่า 530 ล้านบาท ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์เส้นทางการเงิน พบเส้นทางการเงินของคดีหลอกลงทุนคริปโตดังกล่าวเชื่อมโยงกับเส่นทางการเงินในคดีเว็บพนันออนไลน์ด้วย โดยพบว่าเงินที่ถูกหลอกลวงจากการลงทุนคริปโตได้ถูกนำมาผ่านกระบวนการฟอกเงินโดยมีกลุ่มคนร้ายแบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ดังหล่าวยังมีหน้าที่เป็นผู้จัดการทางการเงินให้แก่กลุ่มอาชญากรข้ามชาติด้วยในหลายคดีด้วย โดยสามารถดำเนินการของผู้กระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ได้รวมมูลค่ากว่า 125 ล้านบาท ได้แก่ เงินสดประมาณ 117 ล้านบาท, และรถยนต์หรูมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งสำนักงาน ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินดังกล่าวตามกฎหมาย รวมทั้งสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่ายบัญชีอื่น ๆ เพื่อนำเงินมาชดใช้คืนให้กับผู้เสียหายต่อไป

VISITOR

  • 7
  • 3
  • 5
  • 1
  • 8
  • 2
  • 7
  • 7
  • 2
  • 9
  • 8
  • 1
  • 0
-->
  • Facebook
  • Twitter
  • instagram
  • Youtube
  • TikTok