วันที่ 9 เมษายน 2561 เวลา 14.00 น นายวิทยา นีติธรรม เลขานุการกรม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานด้านปราบปรามการทุจริต ได้เข้าร่วมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ป.ป.ช. ป.ป.ท. ปปง. กองทัพภาคที่1 สตง.กรมสรรพากร กรมบัญชีกลาง บก.ปบก.ปอศ. และบก.ปอท. เพื่อวางแผนลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการฮั้วประมูลขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. 12 แห่ง ใน 10 จังหวัด ที่พบการทุจริตในโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถดูดโคลนฉีดล้างท่อระบายน้ำในลอตที่ 2 โดยมีพลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นประธานการประชุมโดยในวันนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบการแบ่งชุดเจ้าหน้าที่ เพื่อลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในจังหวัดที่พบการทุจริต 10 จังหวัด เช่น จังหวัดนนทบุรี ระนอง สมุทรปราการ สิงห์บุรี ศรีสะเกษ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ และพิษณุโลก ซึ่งเบื้องต้นกรมการค้าภายในได้ให้ข้อมูลรถดูดโคลนและรถขยะอัดท้าย ราคาต้นทุนจากโรงงานราคา ประมาณคันละ 7 ล้านบาท บวกกำไรและภาษีที่ตัวแทนจำหน่ายนำมาขายอยู่ที่ประมาณคันละ 11-12 ล้านบาท แต่ขบวนการฮั้วประมูลกลับตั้งราคาขายให้กับ อปท. คันละ 17-19 ล้านบาท   
อีกทั้ง ที่ประชุมได้รับทราบกรณีที่ ปปป ตร ได้ทำหนังสือเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดหรือตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจในจังหวัดที่มีชื่อพบการทุจริตฮั้วประมูลให้มากล่าวโทษเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดต่อพนักงานสอบสวน นั้น หากอีก 15 วัน หลังจากนี้ ผู้ว่าราชการหรือตัวแทนที่รับมอบอำนาจอีก 5 จังหวัด ที่เหลือไม่มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะทำรายงานไปศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.)ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักในการตรวจสอบการทุจริตเพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบตามขั้นตอนต่อไป