สำนักงาน ปปง. ส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

****************************************

วันที่ 20 เมษายน 2567 นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษก ประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า ตามที่ คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน นั้น

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้มอบหมายให้คณะพนักงานเจ้าหน้าที่กองคดี 1 สำนักงาน ปปง. เป็นผู้แทนในการส่งมอบสำนวนให้นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 2 รายคดี ได้แก่ รายคดี นางสาวเคทรินฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝาก) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 6,000,000 บาท (คำสั่ง ย.25/2567) และรายคดี นายพงศาฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยคณะกรรมการธุรกรรม   มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 5 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝากและเงินในบัญชีซื้อขายทองคำ) พร้อมดอกผล  มูลค่าประมาณ 650,000 บาท (คำสั่ง ย.28/2567)  ณ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ  ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ในคดีความผิดที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสียหายเพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิฯ โดยให้บุคคลที่ได้รับความเสียหายในรายคดีที่เกี่ยวข้องยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหายและจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานปปง. ภายในระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามแต่คดี โดยผู้เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากเว็บไซต์สำนักงานปปง. (www.amlo.go.th) เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าว สำนักงานจะได้ดำเนินการเพื่อส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย(คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) แทนการสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป

****************************************