วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลา 11.30 น. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการดำเนินงานตามมาตรการป้องกัน
และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีระยะแรก (1 – 30 เมษายน 2567)
โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และเลขาธิการ ปปง.
ได้มอบหมายให้ พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. เป็นผู้แทนร่วมแถลงข่าวฯ ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

พลตำรวจตรี เอกรักษ์ฯ รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการการดำเนินงาน ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดังนี้
1) มุ่งแก้ปัญหาบัญชีม้าอย่างเข้มข้น โดยสำนักงาน ปปง. มีการปิดบัญชีม้าแล้ว จำนวนกว่า 700,000 บัญชี และได้กำหนดมาตรการและเงื่อนไขการเปิดบัญชีใหม่ โดยเพิ่มกระบวนการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง Customer Due Diligence หรือ CDD โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องกันการนำไปกระทำความผิด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการ ในเดือนมิถุนายน 2567
2)เร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในการเร่งรัดคืนเงินเพื่อเยียวยาผู้เสียหายจาก การถูกหลอกหลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พลตำรวจตรี เอกรักษ์ฯ รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการ ในระยะต่อไปสำนักงาน ปปง. จะยกระดับการดำเนินงานทั้งด้านการป้องกันและ
ด้านการปราบปรามอย่างเข้มข้น เพื่อเร่งรัดคืนเงินให้ผู้เสียหาย และเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ให้หมดสิ้นไป และขอเตือนผู้ที่คิดจะเปิดบัญชีม้า หรือนำบัญชี ของตนเองไปขายให้คนร้ายเพื่อนำไปเป็นบัญชีม้า ท่านจะต้องถูกดำเนินคดีอาญา และจะถูกประกาศให้เป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งจะส่งผลต่อการถูกระงับ การทำธุรกรรมเป็นเวลา 3 ปี ด้วย