วันที่ 5 สิงหาคม 2563 สำนักงาน ปปง. โดยส่วนสืบสวนทางการเงิน กองข่าวกรองทางการเงิน ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าบูรณาการทำการปิดล้อมตรวจค้น ร่วมกับ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ตำรวจภูธรภาค 5 และ ภาค 7, ตำรวจตระเวนชายแดน, สำนักงาน ป.ป.ส., ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ทหาร ตามแผนปฏิบัติการสยบไพรี 63/16 ยุทธการทลายขุมทรัพย์ จับแก็งยานรก เพื่อทำการกดดันและกวาดล้างเครือข่ายนักค้ายาเสพติดให้โทษรายสำคัญ ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหา ได้ใช้กลุ่มเครือญาติซึ่งเป็นชาวเขาในพื้นที่ภาคเหนือ ทำการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ทำธุรกรรมโอนหรือรับโอนเงินแทน แปรสภาพทรัพย์สิน ที่ดิน บ้าน ในลักษณะของการฟอกเงิน โดยทำธุรกิจขายเสื้อผ้าบังหน้าเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ มีการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ไม่สอดคล้องกับอาชีพและรายได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้บูรณาการกับหน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วน โดยเป็นการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นในหลายจุดทั่วประเทศ ดังนี้

- เขตพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (นายจำลอง โฆษิตฤทธิพล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ, พ.ต.ท.อรรถพล ศุภวิรัชบัญชา นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ, นายคณาวุฒิ ประสานเนตร นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการและนายปิยะภัทร เชื่องดี นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ)

- เขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ( นายสงวนพงษ์ คำบุบผา นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ, นายวิศรุต ไม้แพ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ, นางสาวกชกร เผือกใจแผ้ว นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการและนางสาวรสกร ไชยบัวแดง นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ)

- เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (นายวุฒิพงศ์ ผจงจิตสม นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ, นางสาวอรวรรณ ชูลา นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการและนางสาวจีรญาดา สำนวนกลาง นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ)

ผลการดำเนินการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสมคบฟอกเงิน ได้จำนวน 5 ราย ทำการตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ได้แก่ บ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 24 หลัง, อาคารพาณิชย์ จำนวน 5 คูหา, รถยนต์ จำนวน 22 คัน, รถจักรยานยนต์ จำนวน 27 คัน, บัญชีเงินฝากและโฉนดที่ดินอีกเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จากการเข้าปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ ประมาณ 200 ล้านบาท