Insite bigbanner

เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวรายคดีสำคัญ ประจำเดือน ธันวาคม 2566

UPDATE 12 ธ.ค. 2566

วันที่ 12 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วย พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, นายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด พลตำรวจตรี โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแถลงข่าวรายคดีสำคัญ ประจำเดือน ธันวาคม 2566 โดยมีนายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. และพันตำรวจโท จักร จุลกะรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสืบสวนสอบสวนทางการเงิน  รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองคดี 3 สำนักงาน ปปง. ร่วมแถลงข่าวฯ และมีสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง ณ บริเวณโถงหน้าห้องประชุม 101 ชั้น 1 สำนักงาน ปปง.

               นายเทพสุฯ เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า การแถลงข่าวในวันนี้ เป็นการแถลงผลการดำเนินงานในรายคดีสำคัญ ประจำเดือน ธันวาคม 2566 ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในการสืบสวนสอบสวนดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำความผิด    ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อปราบปรามอาชญากรรมฟอกเงินทุกรูปแบบ รวมทั้งเร่งเยียวยากลุ่มผู้เสียหาย                       เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และประชาชนจำนวนมาก โดยกำชับให้หน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกันทำหน้าที่เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

               ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สิน 996 รายการ 35 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 1,191 ล้านบาท และมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน 31 รายคดี โดยมีการดำเนินการรายคดีสำคัญ 3 คดี ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำความผิด และสามารถดำเนินการกับทรัพย์สินของกลุ่มผู้กระทำความผิด รวมทั้งขยายผลกับผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ได้จำนวนมาก โดยสรุปในแต่ละรายคดีได้ดังนี้

  1. รายคดี นางสาวเดือนนภาฯ กับพวก ซึ่งเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชน โดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพนักงานของบริษัทขนส่งเอกชนหรือบริษัทไปรษณีย์ไทย หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อตรวจสอบ โดยในกรณีนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และสำนักงาน ปปง. ได้สืบสวนติดตามธุรกรรมทางการเงิน จนพบความเชื่อมโยงทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้กล่าว รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
  2. รายคดี นายฉี ซู กับพวก กรณีกลุ่มจีนเทาร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายจำนวนมากลงทุนและโอนเงินไปลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี ในการนี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินคดี และตรวจค้นหลายเป้าหมาย ได้ตรวจยึดทรัพย์สินของเครือข่ายขบวนการกระทำความผิดจำนวนมากรวมทั้งทรัพย์สินของนางสาวจักรีณาฯ หรือ กีกี้ แม็กซิม นอกจากนี้สำนักงาน ปปง. ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลพบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 596 ล้านบาท
  3. รายคดี กลุ่มขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสุกร (คดีหมูเถื่อน) กรณีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยกรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงาน ปปง. ร่วมกันสืบสวนขยายผลขบวนการลักลอกนำเข้าซากสุกรจากต่างประเทศโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากรหรือสำแดงเท็จ ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ก่อนหน้านี้แล้ว รวมมูลค่าประมาณ 53 ล้านบาท โดยขณะนี้สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนขยายผล และรวมรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในชั้นนี้พบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 37 ล้านบาท

               นายเทพสุฯ เลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกหลายคดี โดยมุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานและตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด ในขณะเดียวกัน ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน สำนักงาน ปปง. ก็จะพิจารณาดำเนินการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายด้วย                    ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

VISITOR

  • 7
  • 3
  • 5
  • 1
  • 8
  • 2
  • 5
  • 7
  • 7
  • 0
  • 2
  • 9
  • 7
-->
  • Facebook
  • Twitter
  • instagram
  • Youtube
  • TikTok