สำนักงาน ปปง. ส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รายคดี นายวุฒิมาฯ กับพวก (คดีพระคม) ซึ่งได้ดำเนินการกับทรัพย์สิน จำนวน1,512 รายการ มูลค่าทรัพย์สิน  301 ล้านบาท

*******************************************************

วันที่ 17 มกราคม 2567 นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า ตามที่ คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) นั้น

วันนี้ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ได้มอบหมายให้คณะพนักงานเจ้าหน้าที่กองคดี 2 สำนักงาน ปปง. เป็นผู้แทนในการส่งมอบสำนวนให้นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) ในรายคดี นายวุฒิมาฯ กับพวก (คดีพระคม) ณ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถนนรัชดา เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ รายคดี นายวุฒิมาฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งนายวุฒิมาฯ หรืออดีตพระหมอ เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ดำเนินการตามที่นายคมฯ หรืออดีตพระคมสั่งการให้นำเงินสดที่ได้รับบริจาคจากประชาชนไปฝากเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว และขนย้ายทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องไปซุกซ่อนตามที่ต่าง ๆ ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้ยึดอายัดทรัพย์สินไว้ 1,512 รายการ มูลค่าประมาณ 301 ล้านบาท ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ตามคดีหมายเลขดำที่ ฟ. 173/2566 ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย โดยดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจำนวน 1 ราย (วัดป่าธรรมคีรี)