ENGLISH THAI ADVANCED SEARCH LoginFAQ งานตรวจสอบภายใน VISITOR 28636574 Visitors Counter หน้าแรก Highlight ปปง. จวก “สังศิต” รู้ไม่จริง กรณีสินบนโรส์ลอยซ์กับการทำงานของ ปปง. UPDATE 08 ก.พ. 2560 ปปง. จวก “สังศิต” รู้ไม่จริง กรณีสินบนโรส์ลอยซ์กับการทำงานของ ปปง. ชี้ไม่เกิด “สึนามิ” ทางเศรษฐกิจ และไม่กระทบการประเมินประเทศจาก FATF8 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เปิดเผยว่า ตามที่ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน ( คณะกรรมการ ปปง.) ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน ประเด็นเรื่อง สินบนโรลส์รอยซ์กับการดำเนินงานของสำนักงาน ปปง. อาจส่งผลกระทบต่อการประเมินของ FATF ในเดือนพฤษภาคม 2560 จนอาจเกิดผลกระทบเป็น “สึนามิ” ทางเศรษฐกิจได้นั้น การให้สัมภาษณ์ดังกล่าว มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อองค์กร สำนักงาน ปปง. ขอส่งข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและขอความอนุเคราะห์เผยแพร่ข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อสาธารณชนต่อไป ดังต่อไปนี้1. สถิติการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1,200 รายแต่ศาลให้เป็นไปตามคำขอแค่ 12 รายสำหรับสถิติการยื่นคำร้องต่อศาล สำนักงาน ปปง. มีการยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ทรัพย์สิน ตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1,225 คดี ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1,128 คดี คิดเป็นร้อยละ 92.08 ของคดีทั้งหมด และมีการนำเรื่องขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจำนวน 21 คดี ศาลฎีกามี คำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามคำร้องของสำนักงาน ปปง. จำนวน 18 คดี ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลของนายสังศิตที่ให้สัมภาษณ์ในรายการแต่อย่างใด2. การปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจากกรณีที่นายสังศิตได้ให้สัมภาษณ์ถึง “อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน” นั้น สำนักงาน ปปง. ขอเรียนว่าองค์การสหประชาชาติไม่มีการลงนามในอนุสัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด น่าจะเป็นการกล่าวโดยรวมอนุสัญญา 3 ฉบับ คือ อนุสัญญาสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ซึ่งอนุสัญญาทั้ง 3 ฉบับได้กำหนดให้นำมาตรการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมาใช้ เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในหัวข้อการสนทนากรณีสินบนโรส์-ลอยด์เป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกใช้มาตรการในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อยับยั้ง และป้องกันการทุจริต รวมถึงการยึด อายัด และริบทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริต ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และสำนักงาน ปปง. ได้มีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไปพร้อมด้วยแล้ว3. FATF มิใช่อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แต่เป็น“แนวทางการปฏิบัติที่ดี” ที่นานาประเทศนำมาใช้สำหรับข้อแนะนำของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force หรือ FATF แม้มิใช่ “ข้อบังคับ” ให้ทุกประเทศ “ต้อง” ปฏิบัติตาม แต่ “ข้อแนะนำของ FATF” คือ “มาตรฐานสากล” หรือ “แนวทางการปฏิบัติที่ดี” ที่นานาประเทศนำมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายโดยครอบคลุมถึงมาตรการทั้งเชิงป้องกันและปราบปราม โดยอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จแม้ว่าข้อแนะนำ FATF จะไม่มีสถานะเป็นอนุสัญญาและไม่มีสภาพบังคับในทางกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เป็นข้อแนะนำที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งกว่า 180 ประเทศ มีการนำมาตรฐานสากลนี้มาปฏิบัติ อีกทั้งมีสภาพบังคับทางอ้อม (Soft Law) โดยผ่านกระบวนการประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลของสมาชิก FATF หรือกลุ่มเครือข่ายต่อต้านการฟอกเงินของ FATF ซึ่งรวมถึงกลุ่มความร่วมมือเพื่อต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Group on Money Laundering - APG) ที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกอยู่โดยหากประเมินแล้วพบว่า ประเทศสมาชิกมีข้อบกพร่องจำนวนมากในการปฏิบัติตามมาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เช่น กฎหมายที่มีอยู่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล การกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิผล และไม่มีการประสานความร่วมมือกับต่างประเทศอย่างเพียงพอ อาจส่งผลให้ประเทศนั้นถูกกำหนดรายชื่อเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงด้านการฟอกเงินสำนักงาน ปปง. ขอยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำนักงาน ปปง. ดำเนินการและประสานงานกับทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ภายใต้กรอบกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอย่างเคร่งครัด ดังนั้น การดำเนินการทางคดีโดยเฉพาะคดีที่มีความสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนจึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดการดำเนินงานได้เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อรูปคดี ทั้งนี้ ได้มีหนังสือชี้แจงประเด็นดังกล่าวไปยังสถานีโทรทัศน์สปริงส์นิวส์แล้ว และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าสำนักงาน ปปง. จะใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในการดำเนินการในคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างรอบคอบรัดกุม เพื่อมิให้กระทบสิทธิผู้สุจริต บนพื้นฐานของความยุติธรรม เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญต่อไป**************************** Top VISITOR 7 3 5 1 8 28636574 28636574 Visitors Counter --> Visitors Counter